อยากสั่งผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษกับบริษัทรับทำกล่องแพคเกจจิ้ง ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

อันที่จริงการสั่งซื้อกล่องกระดาษกับบริษัทรับทำกล่องแพคเกจจิ้งนั้นไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากหรือซับซ้อนอะไรมากมายนัก แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจมือใหม่ หรือผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการสั่งซื้อกล่องบรรจุภัณฑ์กับบริษัทรับทำกล่องแพคเกจจิ้งมาก่อน ก็อาจดูเป็นเรื่องที่มีความท้าทายอยู่ไม่น้อย ด้วยความที่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นกันอย่างไร หรือจะต้องเตรียมข้อมูลอะไรที่ทางโรงงานรับทำกล่องแพคเกจจิ้งจำเป็นต้องใช้บ้าง และหากคุณเองก็กำลังสงสัยอยู่ล่ะก็ ไปหาคำตอบด้วยกันในบทความนี้เลย

01

ข้อมูลสำหรับออกแบบโครงสร้างบรรจุภัณฑ์

การออกแบบขนาด และรูปแบบของบรรจุภันณ์นั้นเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะสุดท้ายแล้วรูปร่างหน้าตาของบรรจุภัณฑ์จะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้เป็นหลัก สิ่งสำคัญคือต้องสื่อสารกับบริษัทรับทำกล่องแพคเกจจิ้งให้ชัดเจนถึงความต้องการและความคาดหวังของคุณเอง
หากมีไฟล์สำหรับงานออกแบบแพคเกจจิ้งคร่าวๆ แล้ว ก็สามารถส่งให้ทางบริษัทประเมินและช่วยออกแบบกล่องแพคเกจจิ้งได้ โดยต้องมีการกำหนดขนาด (กว้างxยาวxสูง)หรือ มิติของตัวกล่องอย่างชัดเจน กรณีที่มอบหมายให้บริษัทรับทำกล่องแพคเกจจิ้งเป็นผู้ออกแบบโครงสร้างแพคเกจจิ้งให้ ทางเจ้าของแบรนด์ก็ควรมีตัวอย่างหรือไอเดียงานออกแบบที่ชอบ
02

ข้อมูลสำหรับออกแบบโครงสร้างบรรจุภัณฑ์

ก่อนที่จะมีการพิมพ์ลายลงบนกระดาษที่ใช้ทำกล่องบรรจุภัณฑ์สินค้า ก็เป็นธรรมดาที่จะต้องเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับตัวสินค้าและแบรนด์ที่จะต้องตีพิมพ์ลงบนฉลากซะก่อน โดยอ้างอิงจาก สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) บอกไว้ว่า ส่วนประกอบของฉลากสินค้าที่ถูกต้องควรมีรายละเอียดสำคัญเพื่อให้ผู้บริโภคใช้ตัดสินใจซื้อและใช้งาน เบื้องต้นดังนี้
• ยี่ห้อ และประเภทหรือชนิดของสินค้า
• ชื่อ-ที่อยู่ของผู้จัดจำหน่ายหรือนำเข้าที่สามารถติดต่อได้จริง
• กรณีสั่ง/นำเข้าให้ระบุประเทศที่ผลิต
• ชื่อหรือเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน
• ขนาด มิติ ปริมาณ ปริมาตร น้ำหนัก
• วิธีใช้ ข้อแนะนำในการใช้ หรือห้ามใช้ หรือคำเตือน (ถ้ามี)
• วันเดือนปีที่ผลิต หรือหมดอายุ หรือที่ควรใช้ก่อน
• ราคา พร้อมระบุหน่วยบาท
ส่วนสำคัญของรูปร่างหน้าตา ความสวยงามในการออกแบบลวดลายบนแพคเกจจิ้งที่คุณกำลังสั่งผลิต นับว่ามีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าจะมองเห็นเมื่อนำไปวางขาย จึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ โดยจะต้องระบุรายละเอียดของสินค้าให้ถูกต้องและครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น ชื่อแบรนด์ ประเภทของสินค้า คุณสมบัติของสินค้า และอาจรวมถึงวิธีการใช้และข้อควรระวัง ไปจนถึง วันเดือนปีที่ผลิตและวันหมดอายุ เครื่องหมายการค้า ที่อยู่ผู้ผลิต และเครื่องหมายรับรองอื่น ๆ เป็นต้น
03

ตกลงค่าใช้จ่ายของการผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม

การเลือกรูปแบบของกล่องเมื่อต้องสั่งผลิตกับบริษัทรับทำกล่องแพคเกจจิ้งนั้น ไม่ใช่แค่ต้องเลือกกล่องที่มีขนาดเหมาะสมกับตัวสินค้าเพียงเท่านั้น แต่ยังต้องมองให้ลึกไปถึงความเหมาะสมในด้านของงบประมาณด้วย ซึ่งอาจใช้วิธีสั่งผลิตทีละเยอะ ๆ เพื่อประหยัดต้นทุนในการผลิตและค่าขนส่งลงไปบ้าง นอกจากนี้ต้นทุนยังสามารถแยกออกได้เป็นสองส่วน ซึ่งก็คือ

• ค่าใช้จ่ายในการออกแบบ

ในส่วนนี้ก็จะมีทั้งค่าจ้างออกแบบ และค่าแม่พิมพ์ เป็นต้น

• ต้นทุนต่อชิ้น

ในส่วนนี้คือต้นทุนการผลิตของบริษัทรับทำกล่องแพคเกจจิ้ง เช่น ค่าวัสดุ ค่าแรง ค่าจัดส่ง เป็นต้น
นอกจากนี้แล้วยังต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของบรรจุภัณฑ์กระดาษกับคุณสมบัติของสินค้าอีกด้วย ตัวอย่างเช่น สินค้าแตกหักง่าย สินค้าที่ต้องรักษาอุณหภูมิ หรือสินค้าที่มีน้ำหนักมาก เป็นต้น โดยเรื่องของความเหมาะสมนี้สามารถปรึกษากับทางบริษัทรับทำกล่องแพคเกจจิ้งได้โดยตรง
04

ตกลงระยะเวลาในการผลิต

เชื่อหรือไม่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการหลาย ๆ คนลืมตรวจสอบไปซะสนิทเลยทีเดียว เพื่อเลี่ยงปัญหาที่อาจคาดคิดไม่ถึง เราควรขอทราบระยะเวลาในการผลิตล่วงหน้า ทั้งระยะเวลาในการออกแบบ ระยะเวลาสำหรับการตรวจแก้ ระยะเวลาการผลิต ไปจนถึงระยะเวลาในการส่งมอบ โดยการประเมินระยะเวลาในการผลิตทั้งหมดนั้นจะขึ้นกับรายละเอียดของการพิมพ์ และขั้นตอนในการผลิตกล่องว่ามีความซับซ้อนเพียงใด โดยตัวอย่างของงานหลายขั้นตอนได้แก่ งานที่มีการเคลือบ, การปั๊มฟอยล์สีต่างๆ, ปะหน้าต่างใส, จุดที่ติดเทปกาวเพื่อขึ้นรูปกล่อง เป็นต้น
05

ตรวจสอบชิ้นงานต้นแบบ(Mockup) ก่อนเริ่มผลิตจริง

หลังจากที่ได้ข้อตกลงกับทางบริษัทรับทำกล่องแพคเกจจิ้งในเรื่องของรูปแบบกล่องบรรจุภัณฑ์และตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายและกรอบเวลาทั้งหมดอย่างถี่ถ้วนแล้ว ขั้นต่อมา ด้านบริษัทรับทำกล่องแพคเกจจิ้งก็จะออกแบบและจัดทำบรรจุภัณฑ์ต้นแบบ (Mockup) ออกมาให้เราตรวจสอบดูว่าผลงานแพคเกจจิ้งที่ได้มานั้นตรงกับความต้องการของเราและสามารถใส่สินค้าได้พอดีหรือไม่ และเมื่อตรวจสอบดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วว่าทั้งรูปแบบ งานพิมพ์ และการใช้งาน ตรงกับความต้องการเป็นที่พึงพอใจของคุณเอง บริษัทรับทำกล่องแพคเกจจิ้งก็จะเริ่มต้นการผลิตจริง
และทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ที่ต้องเตรียม และสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนสั่งผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์กระดาษกับบริษัทรับทำกล่องแพคเกจจิ้ง สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ เห็นไหมคะว่าไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดเลย เพียงแต่ต้องใช้ความชัดเจนในการสื่อสารถึงความต้องการ และความละเอียดอ่อนและความใส่ใจในการตรวจสอบการผลิตสักนิดก็เท่านั้นเอง แต่ขอย้ำว่าต้องตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วนเลยนะคะ เพราะหากเริ่มการผลิตจริงไปแล้ว และต้องการแก้ไขงานภายหลัง จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกบริษัทรับทำกล่องแพคเกจจิ้งเจ้าไหนดี ลองติดต่อเข้ามาพูดคุยกับ PICK A BOX ก่อนสิคะ เพราะที่นี่เขาทั้งใส่ใจในการออกแบบ มีความรู้ความเชี่ยวชาญพร้อมด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นเลิศ และประสบการณ์การผลิตกล่องกระดาษทุกรูปแบบที่ช่ำชองกว่า 30 ปี รับรองได้เลยว่าไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน โดยสามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ https://pickaboxpack.com และติดตามความเคลื่อนไหวและอัพเดทผลงานการผลิตกล่องกระดาษและอุปกรณ์แพ็คเกจจิ้งอื่น ๆ ได้ผ่านช่องทางด้านล่างนี้เลย

• Facebook : pickabox.pack
• Instagram : pickabox.pack
• YouTube : pickabox
• Tiktok Shop : @pickabox.pack
และนอกจากบริการงานสั่งผลิตกล่องแล้ว PICK A BOX ยังมีกล่องสำเร็จรูปพร้อมส่งมอบในทันทีอีกด้วย เรียกได้ว่าพร้อมให้บริการได้ไม่ว่าธุรกิจของลูกค้าจะเป็นรูปแบบไหนหรือสเกลขนาดใดก็ตาม
ช่องทางช้อป สินค้าพร้อมส่ง คลิกเลย!
• Website PICK A BOX : pickaboxpack.com
• Shopee : pickabox
• TIKTOK : pickabox
• Lazada : pickabox
• LINEShop : @pickabox.pack

เผย 5 ข้อดีจากกล่องอาหารกระดาษ ที่สามารถเอาชนะกล่องประเภทอื่นได้

กล่องอาหารกระดาษ
กล่องอาหารกระดาษ คือบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารที่เริ่มเห็นกันทั่วไปมากขึ้น แรกเริ่มจากกระแส Go Green หรือแคมเปญรักษ์โลกที่หันมาใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษเพราะสามารถย่อยสลายเองได้ แต่นอกจากสาเหตุทางด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว บรรจุภัณฑ์กระดาษเหล่านี้ก็ยังมีข้อดี และประโยชน์อื่นๆ ที่ช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจเกี่ยวกับอาหารหันมาใช้กล่องอาหารกระดาษกันมากกว่ากล่องประเภทอื่นๆ วันนี้ PICK A BOX นำ 5 ข้อดี จากการใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษมาเผยให้ทุกคนได้รู้ไปพร้อมๆ กัน

กล่องใส่ขนม

5 ข้อดีที่ทำคุณควรเลือกกล่องอาหารกระดาษ

01

ปลอดภัยต่อสุขภาพ

กล่องอาหารกระดาษนั้นผลิตจากเยื่อไม้ธรรมชาติ ปลอดภัยต่อการนำมาเป็นกล่องอาหารอยู่แล้ว แต่ปัจจุบันกระบวนการรับรองกระดาษฟู้ดเกรด (Food Grade) เพื่อทำให้ผู้บริโภคมั่นใจมากยิ่งขึ้น โดยกระดาษฟู้ดเกรดนี้ คือพระเอกที่ทำให้กล่องกระดาษสามารถเอาชนะกล่องพลาสติกหรือกล่องโฟมได้อย่างขาดลอย เพราะกระดาษฟู้ดเกรด ผลิตมาเพื่อใช้เป็นบรรจุภัณฑ์สัมผัสอาหารโดยตรง ทำให้เป็นที่นิยมมากสำหรับผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพเป็นพิเศษ
กล่องอาหารกระดาษ
02

ร้อนหรือเย็น ก็คงทนต่อการใช้งาน

กล่องอาหารกระดาษนั้น มีความสามารถในการคงทนความร้อนจากอาหาร และความเย็น กล่องไม่ผิดรูปง่ายๆ ทำให้สะดวกต่อการถือรับประทานอาหาร และการจัดเก็บอาหารไว้ทานในมื้อต่อไป ช่วยให้อาหารอยู่ในสภาพดี
กระดาษฟู้ดเกรด
03

ดีไซน์ออกแบบได้หลากหลาย

หากเทียบดีไซน์ของกล่องอาหารกระดาษ กับกล่องพลาสติก และกล่องโฟม เราจะเห็นได้ว่ากล่องอาหารกระดาษนั้นมีดีไซน์หรือรูปทรงที่หลากหลายกว่า ไม่ว่าจะแบบกล่องไม่มีฝา กล่องมีฝา กล่องหูหิ้ว และกล่องรูปแบบต่างๆ ด้วยความหลากหลายในการออกแบบกล่องเหล่านี้ ทำให้กล่องอาหารกระดาษนั้นสามารถสร้างแรงดึงดูด ความน่าสนใจ และช่วยให้เกิดความประทับใจเมื่อถูกพบเห็นมากกว่ากล่องพลาสติก และกล่องโฟมนั่นเอง
ออกแบบกล่องอาหาร
04

พื้นที่น้อยไม่ใช่ปัญหา จัดเก็บ และเคลื่อนย้ายง่าย

หากคุณเป็นหน้าร้านขนาดใหญ่นั่นคงไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ในกรณีร้านค้าที่มีลักษณะเป็นบูธขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง อาจจะต้องการพื้นที่ใช้สอยที่ค่อนข้างมาก และนี่คืออีกหนึ่งจุดขายของบรรจุภัณฑ์กระดาษมักจะตอบโจทย์ในเรื่องของพื้นที่การจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ ไม่เปลืองพื้นที่ในร้านค้ามาก รวมไปถึงยังเคลื่อนย้ายได้ง่ายอีกด้วย
กล่องใส่อาหาร
05

ยกระดับแบรนด์ ตัวช่วยด้านการตลาด

นอกจากประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อม หรือเรื่องรักษ์โลกที่กล่องกระดาษมี ทั้งจาก “ฝั่งผู้บริโภค” ที่อยากสนับสนุนบรรจุภัณฑ์กระดาษมากกว่าพลาสติกหรือโฟมที่เพิ่มมากขึ้นแล้วนั้น การเลือกใช้กล่องอาหารกระดาษนั้น ก็ยังช่วยส่งเสริมแบรนด์ได้เป็นอย่างดี เพราะกล่องอาหารกระดาษสามารถดีไซน์รูปแบบให้โดดเด่นได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งยังพิมพ์Corporate Identity สารข้อความแบรนด์ และช่องทางการติดต่อ ช่วยส่งเสริมการตลาดให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
กล่องขนม
เห็นไหมเอ่ย นอกจากประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมแล้ว กล่องอาหารกระดาษก็ยังคงมีข้อดีที่สามารถเอาชนะกล่องพลาสติกและกล่องโฟมได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความมั่นใจจากลูกค้าว่าบรรจุภัณฑ์ปลอดภัยแน่นอน และยังช่วยส่งเสริมด้านการตลาดได้ ข้อดีที่ได้จากบรรจุภัณฑ์กระดาษเหล่านี้รวมกับประเด็นสิ่งแวดล้อมแล้ว หากไม่มีข้อยกเว้นให้จำเป็นต้องใช้กล่องพลาสติกหรือกล่องโฟมต่อไป เราแนะนำให้คุณหันมาใช้กล่องอาหารกระดาษ คุ้มค่ากว่า และดีกว่าอย่างแน่นอน