Skip to content

Blog

บทความ

เคล็ด(ไม่)ลับที่ต้องรู้ 3 ข้อ ก่อนสั่งผลิตกล่องผลไม้

10/09/2021

ในการทำธุรกิจ สิ่งหนึ่งที่ทำให้แบรนด์เป็นที่น่าสนใจและเป็นที่น่าจดจำ คือ การออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แบรนด์สินค้าทุกประเภทไม่ควรมองข้าม หากธุรกิจของคุณเป็นธุรกิจเกี่ยวข้องกับผลไม้ การออกแบบกล่องผลไม้ให้ดูโดดเด่น จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้ไม่น้อยเลย

และสำหรับธุรกิจผลไม้นั้น การเลือกผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์จำเป็นต้องคำนึงถึงเงื่อนไขต่างๆ เพื่อให้สินค้าส่งถึงมือผู้รับได้อย่างปลอดภัยและสมบูรณ์ที่สุด ในบทความนี้ เราได้รวบรวม 3 เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนที่คุณจะสั่งผลิตกล่องผลไม้ จะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้น เรามาดูกันเลยดีกว่า

1. ควรเจาะรูกล่องเพื่อระบายอากาศให้ผลไม้

สำหรับการผลิตกล่องผลไม้ เราจำเป็นต้องเจาะรูเพื่อช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพราะหากไม่มีช่องที่ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก อาจส่งผลต่อคุณภาพของผลไม้ หรืออาจทำให้ผลไม้สุกเร็วก่อนถึงมือผู้บริโภคหรือผู้รับสินค้า ดังนั้น กล่องผลไม้ที่ดีควรมีการไดคัทเจาะรูเพื่อระบายอากาศให้ผลไม้ด้วย 

 

การเจาะรูแบบไดคัทนั้นสามารถเจาะให้เป็นรูปร่างตามต้องการ ทั้งสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลม บางแบรนด์อาจจะเจาะรูเป็นรูปผลไม้ต่างๆ เลยก็ได้ นอกจากจะสวยงามและสร้างสรรค์แล้ว ยังช่วยระบายอากาศได้อีกด้วย

• กล่องไดคัทหูหิ้ว-ก้นขัด หรือ กล่องไดคัทหูหิ้ว-2 in 1

ช่วยให้ถือกล่องได้สะดวก เหมาะมือ สะดวกแก่การซื้อหน้าร้านแล้วถือกลับได้เลย หรือซื้อเป็นของฝาก มีการไดคัทเจาะรูเพื่อระบายอากาศ อีกทั้งยังสะดวกต่อการจัดส่งไปรษณีย์ได้อีกด้วย เหมาะกับผลไม้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น แอปเปิ้ล มังคุด หรือ เมล่อน โดยน้ำหนักรวมไม่เกิน 1-3 กิโลกรัม

• กล่องฝาชน ไดคัทเจาะรูมือจับ

ลักษณะเป็นกล่องทรงไปรษณีย์ฝาชนทรงสี่เหลี่ยม มีการไดคัทเจาะรูสำหรับสอดมือจับทั้งด้านซ้ายและขวาของกล่อง เพื่อให้หิ้วได้สะดวกและถือเป็นการระบายอากาศเพื่อไม่ให้เกิดความชื้นไปในตัว นิยมบรรจุผลไม้ในปริมาณและน้ำหนักที่เยอะ และด้วยรูปแบบกล่องที่มีความแข็งแรงและเหมาะสำหรับการขนส่ง จึงทำให้กล่องทรงนี้เป็นที่นิยมในการนำไปบรรจุสำหรับการจัดส่ง เหมาะกับผลไม้ทุกชนิด โดยมีน้ำหนักตั้งแต่ 2-10 กิโลกรัม

• กล่องไดคัททรงต่างๆ พร้อม ไส้กล่อง – SuperLock

กล่องผลไม้ไดคัทมีหลายทรง และทุกรูปแบบสามารถเพิ่มไส้กล่อง (SuperLock) เพื่อล็อคผลไม้ให้อยู่ในช่องภายในกล่องไม่กลิ้งไปมา ลดการกระแทกกันระหว่างผลไม้ลูกใหญ่เช่น ทุเรียน และเมล่อน และเพื่อความสวยงามของการจัดเรียงผลไม้ภายในกล่อง สร้างความประทับใจในการส่งมอบไปถึงมือผู้รับผลไม้

2. เลือกเกรดกระดาษทำกล่องผลไม้ให้เหมาะสม

เกรดกระดาษ KW

สำหรับการผลิตกล่องผลไม้นั้น แนะนำให้เลือกเกรดกระดาษสำหรับการบรรจุผลไม้โดยเฉพาะ เพื่อป้องกันความชื้น และเพื่อความแข็งแรง ตัวอย่างเกรดกระดาษสำหรับการนำไปผลิตกล่องผลไม้ เช่น 

เกรดกระดาษ KA

มีลักษณะเป็นกระดาษคราฟท์สีขาว ผ่านกรรมวิธีการผลิตพิเศษ สามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% เนื่องจากเป็นกระดาษที่มีโทนสีขาวสว่าง จึงมีความโดดเด่นเรื่องการพิมพ์สวยงาม และมีความแข็งแรงทนทานต่อการขนส่ง และต่อความชื้น เหมาะกับการนำมาทำกล่องผลไม้พิมพ์แบรนด์

มีลักษณะเป็นกระดาษคราฟท์สีน้ำตาลทอง (สีเหมือนกล่องไปรษณีย์ไทย) เป็นกระดาษที่ทำมาจากกระดาษรีไซเคิล 100% เช่นกัน มีจุดเด่นของกระดาษชนิดนี้ คือ ความเหนียว แข็งแรง ทนทาน สามารถกันความชื้นได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับทุกเกรดกระดาษ จึงนิยมนำมาทำเป็นกล่องผลไม้ ถือเป็นเกรดกระดาษมาตรฐานส่งออกเลยทีเดียว

Photos Credit : Pinterest

Photos Credit : Pinterest
สามารถติดตามความเคลื่อนไหวและอัพเดท ผลงานกล่องกระดาษและอุปกรณ์แพคเกจจิ้งอื่นๆ ผ่านช่องทาง
ช่องทางขายกล่องพร้อมส่ง

อยากได้กล่องแบบนี้ !
ติดต่อทีมงาน

PICK A BOX PACK เลย

Pack a box

.

CEO’s talk (4) E-commerce (5) graphic (3) Meet the Experts (2) Packaging (3) กล่องกระดาษ (26) กล่องกระดาษลูกฟูก (3) กล่องขนม (3) กล่องจั่วปัง (2) กล่องบรรจุภัณฑ์ (18) กล่องผลไม้ (3) กล่องพรีเมี่ยม (2) กล่องพัสดุ (14) กล่องพัสดุพิมพ์ลาย (3) กล่องพิซซ่า (3) กล่องพิมพ์ลาย (11) กล่องพิมพ์แบรนด์ (4) กล่องลัง (2) กล่องลูกฟูก (15) กล่องลูกฟูกพิมพ์ลาย (2) กล่องอาหาร (4) กล่องเค้ก (3) กล่องแพคเกจจิ้ง (2) กล่องใส่สินค้า (3) กล่องไดคัท (7) กล่องไปรษณีย์ (16) การออกแบบกล่อง (3) ขนาดกล่องพัสดุ (2) ขายออนไลน์ (10) บรรจุภัณฑ์ (12) บริษัทรับผลิตกล่อง (2) ผลิตกล่องกระดาษ (3) ผลไม้ (2) รักษ์โลก (4) รับผลิตกล่อง (4) รับออกแบบกล่อง (24) รับออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ (14) ออกแบบกล่อง (3) เทคนิคพิเศษ (2) เทรนด์กล่องบรรจุภัณฑ์ (2) แบรนด์ (4) แพคเกจจิ้ง (15) โรงงานผลิตกล่อง (39) โรงงานผลิตกล่องกระดาษ (5) โรงงานรับผลิตกล่องกระดาษ (2)

Related Posts