เรื่องราวของภัยพิบัติ และปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ยังคงถูกถ่ายทอดให้เราเห็นผ่านสื่อต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ ซ้ำร้าย ภัยพิบัติ และภัยธรรมชาติ ยังดูหนักข้อขึ้นมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นอุณภูมิโลกที่ผันผวน ปัญหาขยะทางบก และทางทะเล ทุกอย่างถาโถมเข้ามา ทำให้ทั่วโลกต่างพากันตระหนัก และหาหนทางที่จะช่วยให้ปัญหาดังกล่าวให้ทุเลาและดีขึ้นโดยเร็วที่สุด ด้วยการใช้แพ็คเกจกล่องกระดาษ

เหล่าธุรกิจขนส่ง และธุรกิจ E-Commerce เจ้าเล็กเจ้าใหญ่หันมาเลือกใช้แพ็คเกจกล่องกระดาษกันมากขึ้น จึงเกิดเป็นตัวจุดประกายคอนเซ็ปต์รักษ์โลก รณรงค์ให้หลายแบรนด์เลิกใช้พลาสติก และหันมาใช้วัสดุกระดาษรีไซเคิลที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% พร้อมย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ (eco-friendly, recyclable & biodegradable) และวิธีการเผาทำลายยังสร้างมลภาวะพิษให้กับโลกอีกด้วย หากใครยังคิดว่าพลาสติกยังคงจำเป็น และใช้ออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้ดีที่สุดอยู่ ช้าก่อน คุณอาจจะทบทวนใหม่ หากได้อ่านเนื้อหาต่อไปนี้

แพ็คเกจกล่องกระดาษ ย่อยสลายเองได้(ไวกว่ามาก)

หากจะพูดถึงการย่อยสลายนั้น อาจจะดูไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าไหร่ หากเราจะพูดออกไปห้วนๆ ว่ากล่องกระดาษดีกว่าเพราะย่อยสลายเองได้ โดยที่ในความเป็นจริงแล้ว พลาสติกทั้งหลาย ก็สามารถย่อยสลายเองได้ด้วยเช่นกัน แต่ในส่วนของระยะเวลาในการย่อยสลายนั้น เรียกได้ว่าพลาสติกหนึ่งใบ ใช้ช่วงเวลาในการย่อยสลายนานนับหลายช่วงอายุคน

• ถุงพลาสติกแบบbioplastic ใช้เวลาย่อยสลายภายใต้อุณหภูมิและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเท่านั้น
• ถุงพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง ใช้เวลาย่อยสลาย มากกว่า 100 ปี
• หลอดพลาสติก ใช้เวลาย่อยสลาย มากกว่า 500 ปี
• กล่องพลาสติก & กล่องโฟม ใช้เวลาย่อยสลาย มากกว่า 1,000 ปี


(ขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ Globe Conscious )
แม้ว่าในปัจุบันอัตราการใช้พลาสติกสำหรับผู้บริโภคจะทยอยลดน้อยลง แต่ในส่วนของผู้ผลิตนั้นยังคงมีมากอยู่เช่นเดิม เพราะฉะนั้นในส่วนของเหล่าผู้ผลิตและเจ้าของธุรกิจ แม้จะเป็นฟันเฟืองตัวเล็กๆ ของโลก แต่การหันมาใช้แพ็คเกจกล่องกระดาษนั้น ก็เป็นการช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกล้นโลก และปัญหามลภาวะพิษต่างๆ ที่ดีมากกว่าการไม่ทำอะไร รวมไปถึงหากผู้ผลิตส่วนใหญ่หันมาผลิตกล่องกระดาษ หรือบรรจุภัณฑ์กระดาษกันมากขึ้น ยังมีโอกาสส่งผลให้เหล่าผู้บริโภค เกิดความเคยชิน และทดแทนภาพจำในการใช้บรรุภัณฑ์พลาสติกไปได้ในที่สุด