“ขายของออนไลน์” เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน เพราะเป็นธุรกิจที่ไม่จำกัดช่วงอายุ ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถเปิดร้านขายออนไลน์ตามแพลตฟอร์มต่างๆ ได้ทั้งนั้น จึงทำให้ทุกวันนี้มีการแข่งขันทางตลาดออนไลน์สูงมาก ถึงแม้ว่าจะเป็นธุรกิจที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จในการขายออนไลน์ เรามีเทคนิคและกลยุทธ์การขายของออนไลน์ยังไงให้เจ๋ง! ไม่เจ๊ง! มาแนะนำพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทุกท่าน เพื่อนำไปปรับใช้กับธุรกิจกัน
การวางแผนทางกลยุทธ์การตลาด
เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะหากผู้ลงทุนไม่วางกลยุทธ์และวางแผนการตลาด จะเกิดความเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้ธุรกิจที่ทำไปนั้น ไม่มีทิศทางการขาย และ กลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน และอาจทำให้ไปไม่รอด การวางแผนการตลาดนั้น จะประกอบด้วย
- วางแผนการตลาดผลิตเขียน Content อิงตามเทศกาล หรือกระแสสังคมแง่บวกที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนั้น เจ้าของแบรนด์เองจำเป็นจะต้องเข้าใจในกลุ่มลูกค้าด้วยว่ามี Lifestyle แบบไหนเพื่อจะได้กำหนดการทำ Content ให้ตรงใจ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากที่สุด
- ศึกษาและเข้าใจกลุ่มลูกค้าเพื่อให้ทราบว่ากลุ่มลูกค้าของตนเป็นใคร, ช่วงอายุไหน, เพศอะไรเป็นหลัก, Lifestyle เป็นอย่างไร รวมไปถึงปัจจุบันกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ประสบปัญหาอะไรอยู่กับตัวสินค้าที่มีในตลาด เพื่อออกผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าของเรา
กำหนดช่องทางการขายและโปรโมท
อย่างที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันนั้น ในโลกออนไลน์มีช่องทางการขายที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Social Media เช่น LINE My Shop, Facebook Shop หรือ Market Place เช่น Lazada, Shopee ซึ่งในแต่ละช่องทางนั้น พฤติกรรมลูกค้าจะแตกต่างกันไป
- ซึ่งแพลตฟอร์ม Social Media พฤติกรรมลูกค้าจะเน้น Engagement ที่สูง และมีการเปรียบเทียบราคาต่ำกว่า Market Place ซึ่งลูกค้าสามารถกดดูรายการสินค้าที่เทียบเคียงจากระบบ Ai ที่แนะนำสินค้าที่มีลักษณะคล้ายกันได้อย่างค่อนข้างแม่นยำ ทำให้ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะเปรียบเทียบราคาสูงกว่าแพลตฟอร์ม Social Media
เมื่อทราบว่าจะโพสต์ลงในช่องทางไหน ก็สามารถปรับเปลี่ยน Content หรือ Promotion เพื่อให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าในช่องทางนั้นๆ
การคิดโปรโมชั่นเด็ดๆ สร้างความแตกต่าง
เนื่องจากในตลาดออนไลน์นั้นมีการแข่งขันที่สูง จึงจำเป็นต้องมีโปรโมชั่นพิเศษเพื่อดึงดูดใจลูกค้า เช่น เลือกตั้งโปรโมชั่นพิเศษสอดรับกับช่วงเวลาเทศกาล เช่น เทศกาลปีใหม่ เทศกาลวาเลนไทน์ เทศกาลวันแม่ เป็นต้น ต้องการแก้ไขแบบดังกล่าว
- ข้อควรระวัง : เพื่อไม่ให้ลูกค้ามีพฤติกรรมในการรอซื้อสินค้าเฉพาะช่วงที่มีโปรโมชั่นเท่านั้น ดังนั้นการที่มีโปรโมชั่นเด็ดๆ ไม่ควรชัดติดต่อกันนานเกิน 3-7 วัน/ โปรโมชั่น หรือตามความเหมาสมอีกครั้งหนึ่ง
กำหนดช่องทางการชำระเงินที่สะดวกสบายต่อลูกค้า
เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ร้านค้าออนไลน์จะขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือการมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายและสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการชำระผ่านระบบ E-Banking, Mobile Banking, บริการ COD, การชำระผ่านบัตรเครดิต อย่าง Payment Gateway ตัวกลางเช่น Omise เป็นต้น ก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น
เน้นบริการทั้งก่อนและหลังการขาย
สิ่งที่จะทำให้ทั้งลูกค้าใหม่ติดใจ และลูกค้าเก่ากลับมาซื้อซ้ำได้นั้น ร้านค้าเองจำเป็นจะต้องมีบริการและให้คำปรึกษาที่ดีทั้งก่อนและหลังการขาย เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าตั้งแต่วินาทีแรกที่เริ่มสนทนา และนั่นก็จะเป็นสิ่งที่ต้องจัดการภายในร้านค้าหรือองค์กรให้ดี เพื่อให้ลูกค้านึกแบรนด์สินค้าเรามาเป็นอันดับต้นๆ
แม้ว่าจะมีเทคนิคที่แนะนำไปเบื้องต้นแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจจะลืมไปไม่ได้นั่นก็คือ การอัพเดทเทรนด์ และสถานการณ์ต่างๆ รอบด้านอยู่เสมอ เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยให้ธุรกิจขายของออนไลน์เราเติบโตได้แบบไม่มีสะดุดแน่นอน
Photos Credit : Pinterest