ปัจจุบันโลกได้เปลี่ยนแปลงไป การค้าขายที่เคยขายกันแบบหน้าร้านได้เปลี่ยนมาขายออนไลน์กันมากขึ้น ซึ่งโดยมากแล้วสินค้าที่ขายกันในโลกออนไลน์มักจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ อาหารเสริม สกีนแคร์ หรือเครื่องสำอาง ซึ่งสินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าที่ซื้อง่ายขายคล่อง และสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเหล่าพ่อค้าแม่ค้าทำธุรกิจขายของออนไลน์คือ กล่องพัสดุ
กล่องไดคัทหูช้างถือเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับพ่อค้าแม่ค้าอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะใช้งานได้ง่าย และดูพรีเมี่ยม เมื่อนำมาทำเป็นกล่องพิมพ์แบรนด์จะยิ่งช่วยสร้างความโดดเด่นละความเป็นเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์สินค้าได้เป็นอย่างดี และกล่องไดคัทหูช้างแตกต่างกับกล่องทั่วไปอย่างไร มาดูกันค่ะ
ขนาดกล่องพัสดุ เรื่องปวดหัวสำหรับเหล่าพ่อค้าแม่ค้า
เมื่อพูดถึงขนาดกล่องพัสดุนั้นมีหลากหลายขนาดมากจนเหล่าพ่อค้าแม่ค้าเลือกไม่ถูกว่าจะใช้ขนาดกล่องพัสดุไซส์ไหนที่เหมาะกับสินค้าของตัวเอง อีกทั้งยังมีเรื่องของค่าขนส่งสินค้าที่แปรผันตรงกับขนาดกล่องพัสดุอีกด้วย สร้างความปวดหัวและความสับสนให้กับเหล่าร้านค้าออนไลน์ไม่น้อย
ขนาดกล่องพัสดุยอดฮิต มีไซส์ไหนบ้างที่ร้านค้าออนไลน์ต้องมี
การเลือกกล่องพัสดุ ควรเลือกจากขนาดมาตรฐาน โดยกล่องขนาดมาตรฐานนั้นมีทั้งขนาดมาตรฐานสากลและมาตรฐานตามบริษัทขนส่ง แต่ขนาดกล่องพัสดุที่เป็นสากลนั้นเป็นที่นิยมใช้กันมากกว่า กล่องพัสดุขนาดมาตรฐานสากลนั้นมีวางขายแบบกล่องสำเร็จรูป ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสำหรับพ่อค้าแม่ค้า เพราะสามารถเลือกซื้อกล่องสำเร็จรูปที่มีพร้อมส่งได้เลย
ขนาดกล่องพัสดุสำหรับสินค้าขนาดเล็ก ถึง กลาง
กล่องพัสดุขนาดเล็กขนาดดังต่อไปนี้ นิยมนำมาใส่สินค้าประเภทเสื้อผ้าชิ้นเล็ก ถุงเท้า เครื่องสำอาง อาหารเสริม เครื่องประดับ หรือสินค้ากิ๊ฟช็อป เป็นต้น
- กล่องพัสดุเบอร์ 0 ขนาด 11 × 17 × 6 เซนติเมตร
- กล่องพัสดุเบอร์ 00 ขนาด 14 × 9.75 × 6 เซนติเมตร
- กล่องพัสดุ A ขนาด 14 × 20 × 6 เซนติเมตร
- กล่องพัสดุ AA ขนาด 13 × 17 × 7 เซนติเมตร
- กล่องพัสดุ B ขนาด 7 × 25 × 9 เซนติเมตร
ขนาดกล่องพัสดุสำหรับสินค้าขนาดกลาง ถึง ใหญ่
กล่องพัสดุขนาดใหญ่ขนาดดังต่อไปนี้ นิยมนำมาใส่สินค้าประเภทเสื้อผ้าชิ้นใหญ่ กระเป๋า รองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ในครัวเรือน ผลไม้ เป็นต้น
- กล่องพัสดุเบอร์ 0 ขนาด 11 × 17 × 6 เซนติเมตร
- กล่องพัสดุเบอร์ 00 ขนาด 14 × 9.75 × 6 เซนติเมตร
- กล่องพัสดุ A ขนาด 14 × 20 × 6 เซนติเมตร
- กล่องพัสดุ AA ขนาด 13 × 17 × 7 เซนติเมตร
- กล่องพัสดุ B ขนาด 7 × 25 × 9 เซนติเมตร
วิธีเลือกขนาดกล่องพัสดุให้เหมาะกับสินค้า
การเลือกกล่องพัสดุสำหรับสินค้าควรคำนึงถึงหลายๆ ปัจจัย ทั้งขนาดกล่องพัสดุ ความปลอดภัย ความคุ้มค่า และภาพลักษณ์ของแบรนด์ร้านค้า แต่นอกจากจะต้องคำนึงถึงปัจจัยที่กล่าวมาแล้ว ยังต้องดูด้วยว่าสินค้าที่เราขายนั้นคืออะไร โดยการเลือกกล่องพัสดุที่เหมาะกับสินค้านั้นจะสามารถเลือกรูปทรงของกล่องได้ ทั้งกล่องฝาชน กล่องไดคัทหูช้าง หรือกล่องไดคัททรงอื่นๆ เพื่อความแตกต่างและความเหมาะสมกับสินค้า
• กลุ่มสินค้าอาหารเสริม
กลุ่มสินค้าประเภทอาหารเสริม ที่เป็นสินค้าขนาดเล็กหรือเป็นซองแบนๆ สามารถใส่ลงในกล่องพัสดุเบอร์ 0 ได้ แต่ทั้งนี้ หากลูกค้าสั่งซื้อของในจำนวนมาก กล่องพัสดุเบอร์ 0 อาจไม่เพียงพอ แต่อาจต้องมองหากล่องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีก อาจขยับขึ้นมาเป็นกล่องพัสดุเบอร์ 0+4, กล่องพัสดุ A หรือ กล่องพัสดุ B ทั้งนี้แล้วแต่จำนวนสินค้าที่ลูกค้า
• กลุ่มสินค้าประเภทเสื้อผ้า
สำหรับสินค้าประเภทเสื้อผ้า หากมีจำนวนไม่มากก็สามารถใส่ซองหรือถุงไปรษณีย์ได้ แต่หากเป็นจำนวนมากก็แนะนำให้ใส่กล่องพัสดุจะดีกว่า กล่องพัสดุ A, กล่องพัสดุ B หรือกล่องพัสดุ C กล่องอาจจะดูเล็กเกินไปสำหรับเสื้อผ้าหลาย ๆ ชิ้น ดังนั้น อาจจะต้องพิจารณากล่องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย
• กลุ่มสินค้ากระเป๋า รองเท้า
กระเป๋าและรองเท้า แน่นอนว่าไม่สามารถใส่ได้ทั้งกล่องพัสดุ A และกล่องพัสดุ B เพราะมีขนาดเล็กเกินไป กล่องที่เหมาะกับสินค้าชนิดนี้จึงควรเป็นกล่องขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ หรือกล่องที่ออกแบบขนาดเฉพาะเลย ขึ้นอยู่กับขนาดสินค้า
การเลือกขนาดกล่องพัสดุให้เหมาะกับสินค้า นอกจากจะช่วยปกป้องสินค้าให้ปลอดภัยถึงมือผู้รับแล้ว ยังช่วยควบคุมต้นทุนไม่ให้บานปลายด้วย ลองคิดดู.. หากสินค้ามีชิ้นเล็ก แต่เลือกใช้กล่องพัสดุขนาดใหญ่ จะสิ้นเปลืองค่าขนส่งแค่ไหน ดังนั้น เหล่าพ่อค้าแม่ค้าจึงควรเลือกขนาดกล่องพัสดุให้เหมาะสมกับสินค้าของตัวเองด้วยนะคะ